วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555
Programmer อาชีพที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ปี 2555 ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วผมได้เดินเข้าไปในรั่วมหาวิทยาลัยและเลือกเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยที่แทบจะไม่รู้เลยว่า สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์คืออะไร รู้แค่เพียงว่าเกี่ยวกับคอม จบไปแล้วหางานได้แค่นั้นเอง ชีวิตช่วงนั้นของผมก็เลยเรียนๆเล่นๆ โดยไม่ค่อยได้คิดที่จะศึกษากับสาขาที่เรียนเท่าไหร่ ตอนสมัยเรียนก็ไม่มีอะไรหวือหวา จนกระทั้งมาถึงปีสุดท้าย ปีที่ต้องทำโปรเจคจบ(เด็กที่เรียนสาขานี้จะเข้าใจดีว่ามันเป็นอะไรที่เข้าใจยาก คนไม่เรียนไม่เข้าใจหรอก ^_^ ประมาณนั้น) ผมก็เปนหนึ่งในนั้นที่หาเหตุผลมาอ้างกับที่บ้านว่าทำไมเราถึงไม่จบซะที อ้างนู้นอ้างนี่ แต่จิงๆแล้วเราไม่ได้เริ่มทำอย่างจิงจังซะที (อันนี้มาเข้าใจทีหลังว่าที่จบช้าเพราะไม่เริ่มทำจิงจัง ^_^) จนวันนึง พี่สาวผมก็มาทำให้ผมสำนึก (ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเขียน Blog นี้) พี่สาวผมทั้งดุ ทั้งว่าถึงขั้นน้ำตาตก กดดันผมทุกด้าน ทำให้ผมต้องกัดฟันสู้ จากวันที่โดนดุ ผมก็เริ่มหันมาสนใจและใช้เวลาส่วนใหญ่กับการอ่านหนังสือ การเขียนโปรแกรม เริ่มต้นครั้งแรกตอนปลายเดือน มีนาคม 2553 หนังสือเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมเล่มแรกคือ Visual C# 2008 ถ้าจำไม่ผิด เล่มสีเขียว ผมลองอ่านและทำตามโดนไม่สงสัยว่าไอ้ที่เรากำลังเขียนอยู่มันหมายถึงอะไร เอาแค่เขียนแล้วผลลัพท์ออกมาก็แค่นั้น ลองทำไปเรื่อยๆ (ผมเป็นคนขี้สงสัย เขียนไปชอบสงสัยว่ามันหมายถึงอะไร เลยทำให้เขียนไม่ได้สักที) หลังจากใช้เวลาประมาณเดือนนึงกับการเขียนโปรแกรมไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเขียนเป็นขึ้นมานิสนึง!!! ก็เลยเริ่มกลับมาทำโปรเจค ตอนที่ผมทำเป็น Baby Project ชื่อโปรเจคว่า Program Capture VDO อะไรสักอย่างจำไม่ได้ เหตุที่ผมเรียกว่า BabyProject เพราะว่าพี่สาวผมเรียกอย่างนั้น ผมก็ยังเถียงพี่สาวนะว่า มันทำยากมาก กว่าจะทำได้ มันลำบากยากเย็น พี่สาวผมก็บอกว่า เออนั่นแหละ Bayby Project งานจริงๆเค้าทำกันใหญ่กว่านี้เยอะ เราก็จำ แต่ก้อไม่ติดใจอะไร จนวันนึงที่เราจบแล้วเริ่มหางานทำ ผมก็ไปสมัครงานต่างหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมคอม คนขับรถส่งนม(สัมภาษณ์ให้เราไปขายนม) ครูวิทยาลัย ครูสอนคณิตศาสตร์(สัมภาษณ์แล้วให้เราไปตรวจข้อสอบ แถมต้องเสียเงินประกันด้วย) พนักงานห้าง และ บราๆๆๆ พี่สาวเห็นทีไม่ดีแน่เลยส่ง Resume ให้ ตอนนั้นผมอยากทำงานที่นครสวรรค์ เพื่อรอที่จะไปเป็นทหาร หกเดือน ปรากฏว่าหลังจากที่ไปสัมภาษณ์คนส่งนมได้สองวันก็มีบริษัทหนึ่งโทรมาให้เข้าไปสัมภาษณ์งานที่กรุงเทพ
จุดเริ่มต้นของอาชีพโปรแกรมเมอร์
การเข้ามาสัมภาษณ์งานครั้งแรกในกรุงเทพนั้น ผมนั่งรถตู้มาจากนครสวรรค์ตอนเช้าเนื่องจากที่บริษัทนัดบ่ายโมง ผมเลยออกจากนครสวรรค์ฺ 9 โมงเช้ามาถึง 11 โมงกว่าๆ ก็เดินเล่นไปเรื่อยตามประสาเด็กบ้านนอกเข้าเมืองกรุง ถึงเวลาก็เข้ามาบริษัทก่อนเวลาประมาณ 15 นาที การสัมภาษณ์ครั้งนั้นเริ่มต้นด้วยการทำข้อสอบเกี่ยวกับการ Query SQL พื้นฐานธรรมดาทั่วไป Select from where join อะไรพวกนี้ ข้อสอบมีประมาณ 10 ข้อ ปรากฏว่าผมทำผิดหมดเลย 10 ข้อ ก่อนมาพี่สาวผมบอกให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับ SQL Server มา ผมก็นั่งอ่าน 2 วัน แต่ไม่มีโอกาสได้ลองทำ นั่งเทียน Query เอาคิดว่ามันจาออก พอมสอบจิงนึกไอ้ที่ท่องไม่ออกครับท่าน แล้วก้อถึงเวลาสัมภาษณ์ ผมคิดว่าการมาครั้งนี้ต้อง Fail แน่ๆ คุยไปคุยมาปรากฏว่าได้ครับ งงเลย??? ผมสมภาษณืวันจัน พี่เค้าขอให้เริ่มงานวันพฤหัส ทดลองงานว่าจะทำได้หรือไม่ 7 วัน ผ่านโปร 3 เดือนตามมาตราฐานทั่วไป และนั่นก้อคือครั้งแรกที่มีโอกาสเข้ามาสัมผัสการอาชีพนี้เต็มๆ
การเริ่มต้นงานนั้นวันแรกไม่มีอะไรตื่นเต้น หลังจากนนั้นก็เริ่มได้ยินคำว่า ERP คำถาม ERP คืออะไรวะ พอเริ่มสงสัยเริ่มต้องหาที่พึ่ง นึกอะไรไม่ออกก็อากู้ Google ก็เลยพอรู้คร่าวๆว่า ERP คืออะไร หลังจากนั้นผมก็ได้โอกาส ได้รับมอบหมายงานที่จะต้องดูแลนั่นคือระบบ HR พอได้งานมาเราต้องมานั่งแก้ Code ที่เขียนไว้คราวนี้แหละประเด็น Code ที่เขียนไว้เขียนด้วย VB ผมเขียน C# มาโดยมีพื้นฐานนิสหน่อย งานก็ต้องทำ ความรู้ก้อมีน้อย Code ก็เปนแบบงูๆปลาๆ ผมเลยใช้วิธีขอ Code ที่ทำงานมานั่งไล่ที่บ้าน โดยการไล่ทีละตัวๆ เพื่อนทำความเข้าใจ Flow ของระบบเก่าเพื่อที่จะทำการแก้ไข (ช่วงนี้น้ำตาตกครับ กลัวทำงานไม่ได้ แต่หันหลังไม่ได้ต้องกัดฟันสู้อย่างเดียว ขอบอกน้ำตาตกอยู่ร่วมอาทิตย์ Code ที่เอามาก็เขียนอะไรไว้ไม่รู้ ไม่เหนรู้เรื่องเลย ไม่รู้ Code ไม่ดีหรือเราไม่เข้าัใจ???) หลังจากนั่นก็ต้องเริ่มทำเพื่อ IntegrateSystem ตอนนั้นผมทำ 3 Party ทำให้งานมีการแบ่งกันไปทำ เราต้องระบบไปรวมกับอีก 2 Party แรกๆเราก็เอาไปให้เค้ารวม ทำไปทำมาเราก็เอามารวมเอง และทำไปทำมา เราก็เอามารวมและทำทั้งหมด คราวนี้และเราเลยเข้าจัยคำว่า Baby Project ที่พี่สาวเคยพูดเลย ระบบนี้มี 12 Module ๆ ที่มี Page น้อยที่สุดคือ 6 Page มากที่สุดจำไม่ได้แต่เยอะแต่ละ Module มีความเกี่ยวโยงกัล บ๊ะ มันล่ะครับทีนี้ เป็นบทเรียนราคาแพงที่ไม่สามารถหาซื้อได้ มหาวิทยาลัยไม่มีสอน ต้องทำ ลองผิดลองถูก มีปัญหาตลอด ถ้าให้เล่าคงไ่ม่หมดเป็นแน่ พิมพ์ไม่ไหว ก็เลยค่อยๆเก็บประสบการณ์มาครับ จากนั้นก็เริ่มเป็นโปรแกรมเมอร์มาจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวจริงๆแล้วเยอะกว่านี้มากครับแต่ขอเล่าเอาเป็นวิทยาทานเพื่อเป็นกำลังใจให้สู้กันต่อไปเพียงเท่านี้ก่อนครับ
****หมายเหตุ****
-พี่สาวผมเป็น HR IT เลยสามารถชี้แนะผมได้ว่าสมควรจะทำอะไร(อันนี้เป็นความโชคดีครับ) และเป็นผู้แนะนำให้เขียนบทความนี้ขึ้น ^_^
-โอกาสเป็นของหายาก ถ้ามีโอกาสให้รีบคว้าแล้วพยายามทำมันก่อนที่จะบอกว่า ทำไม่ได้!!!
-พยายามทำ แม้ว่าต้องทำทั้งน้ำตาก็ต้องพยายาม เพราะว่า ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ เพราะมีมือเท้าเท่ากัน
*****************
สุุดท้ายนี้หวังว่าบทความคงพอเป็นวิทยาทานได้บ้าง เพื่อคนที่กำลังท้อ จะได้มีแรงสู้ต่อไป มีอะไรเพิ่มเติมสามารถติชมได้ครับ ^_^
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น